การบริหารจัดการความเสี่ยง
การบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management for Emerging risk , Impact and Mitigation plan)
2.2 ปัจจัยความเสี่ยงต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท
2.2.1 ความเสี่ยงต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทหรือกลุ่มบริษัท
บริษัทฯ วิเคราะห์ และประเมินสภาพแวดล้อมทั้งจากปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก เป้าหมาย และกลยุทธ์ขององค์กร รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม เทคโนโลยี คู่แข่ง และแนวโน้มอื่น ๆ ทั้งในระดับโลก ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ ในการวางแผนดำเนินการ เพื่อระบุ และประเมินความเสี่ยงสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน และการบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร พร้อมทั้งจัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยงเพื่อลดผลกระทบของความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของกรอบการบริหารความเสี่ยง และมีความสอดคล้องกับการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยในปี 2566 บริษัทในกลุ่มสมบูรณ์มีการประเมิน และจัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยงที่สำคัญ ดังต่อไปนี้
ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์
(1) ความเสี่ยงจากการแข่งขันในอุตสาหกรรม
การแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์มีอัตราการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยมีปัจจัยที่สำคัญ คือ การแข่งขันกับผู้ผลิตชิ้นส่วนในกลุ่มประเทศที่มีต้นทุนต่ำ (Low Cost Country) ซึ่งมีความได้เปรียบในด้านต้นทุนวัตถุดิบ เนื่องจากมีแหล่งวัตถุดิบเหล็กภายในประเทศ และค่าแรง ซึ่งสามารถสร้างข้อได้เปรียบด้านราคาตามมาได้
การบริหารความเสี่ยง
บริษัทฯ มีการเตรียมความพร้อม และได้ดำเนินการจัดการความเสี่ยงเพื่อลดผลกระทบ โดยการจัดหา และพัฒนาวัตถุดิบร่วมกับคู่ค้า รวมถึงควบคุมดูแลคุณภาพของผลิตภัณฑ์ด้วยการนำเทคโนโลยี และระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยลดของเสีย และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุน ตลอดจนการบริหารความสัมพันธ์ และความเชื่อมั่นกับลูกค้าในทุกระดับ รักษาความสัมพันธ์อันดีกับทุกกลุ่มลูกค้าอย่างยั่งยืน ติดตามความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และหาโอกาสทางธุรกิจในการขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งนี้ เพื่อลดผลกระทบจากความเสี่ยงดังกล่าว และสร้างผลดำเนินการให้เป็นไปตามแผนธุรกิจต่อไป
(2) ความเสี่ยงในการขยายการลงทุน
บริษัทฯ ได้มีการขยายการลงทุุนไปยังธุรกิจชิ้นส่วน และแพลตฟอร์มระบบรถไฟฟ้า ธุุรกิจการพัฒนา ผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรกลและอุปกรณ์การเกษตร เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย และกลยุุทธ์ที่บริษัทกำหนดไว้ เป็นแนวทางการพัฒนาธุรกิจใหม่ที่สำคัญเพื่อสร้างการเติบโต ทั้งนี้ ในการลงทุน และผลการดำเนินงานของบริษัทร่วมทุน และบริษัทย่อย ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นมีความเสี่ยง เนื่องจากยังอยู่ในระยะเริ่มต้นของโครงการหรือธุรกิจ อาจมีความไม่แน่นอนหลายประการ และเป็นความท้าทายที่ทางบริษัทฯ ต้องบริหารจัดการ ได้แก่ การจัดหาอุปกรณ์ การบริหารคู่ค้า การจัดหาเงินทุน ค่าใช้จ่ายในการลงทุน การจัดหาผู้บริหารโครงการ และแรงงานที่มีความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งมีผลต่อการทดสอบในกลุ่มเครื่องจักรกลการเกษตร เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น อาจส่งผลกระทบ ต่อผลการดำเนินงานของโครงการพัฒนาธุรกิจใหม่ทำให้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายได้
การบริหารความเสี่ยง
บริษัทฯ มีมาตรการบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นนี้ ด้วยการสรรหาผู้มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ และส่งตัวแทนของบริษัทฯ ดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทร่วมทุน เพื่อติดตาม ทบทวนผลการดำเนินการอย่างใกล้ชิด และจัดประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ ผู้ร่วมทุน รวมทั้งหาโอกาสในการพัฒนาความรู้ด้านวิศวกรรม และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อร่วมเสริมสร้างศักยภาพให้แก่บริษัทฯ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการศึกษาความเป็นไปได้ การประเมินความคุ้มค่าของการลงทุุนอย่างถี่ถ้วน และพิจารณาปัจจัยภายใน และภายนอกอย่างครอบคลุุมทุุกด้าน เพื่อกำหนดรูปแบบ และนโยบายของบริษัทร่วมทุน และบริษัทย่อย โดยพิจารณาถึงโอกาส และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น มีการพัฒนาเครื่องมือในการติดตามสถานะการดำเนินงานของการลงทุน และนำเสนอรายงานความคืบหน้าให้แก่คณะกรรมการบริษัททราบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการสร้างมาตรฐานการควบคุมที่ดี เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการลงทุุน และการดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามเป้าหมายที่กำหนด
ความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน (Operational risks)
(1) ความเสี่ยงจากยอดการผลิตในกลุ่มรถกระบะและเครื่องจักรกลการเกษตรที่ลดลง เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ
สืบเนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะชะลอตัว หนี้สินภาคครัวเรือนอยู่ในระดับที่สูงมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีรถยนต์จำนวนมากถูกยึด เนื่องจากความสามารถในการผ่อนชำระของผู้ซื้อ โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะ ปัจจัยเหล่านี้เป็นแรงผลักดันให้ภาคธนาคารเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะสินเชื่อรถยนต์ ส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงและกำลังซื้อของประชาชน และส่งผลกระทบต่อยอดการผลิตรถยนต์สำหรับตลาดภายในประเทศเป็นลำดับ
การบริหารความเสี่ยง
บริษัทฯ ตระหนักถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากความเสี่ยงดังกล่าว มีการดำเนินการปรับการผลิตให้สอดคล้องต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลง และมองหาช่องทางการขายด้วยการเพิ่มปริมาณการส่งออก ทั้งการเพิ่มกลุ่มสินค้าในประเทศที่ส่งขายในปัจจุบัน และเพิ่มการขายไปยังกลุ่มประเทศอื่น ๆ ทั้งนี้ เพื่อลดผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัท อันอาจจะเกิดขึ้นจากความเสี่ยงดังกล่าว
(2) ความเสี่ยงด้านการหาผู้สืบทอดตำแหน่งที่สำคัญ
จัดทำแผนผู้สืบทอด ซึ่งเป็นกระบวนการในการจัดเตรียมให้องค์กรสามารถสร้างความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ทั้งนี้หากบุคลากรในตำแหน่งสำคัญเกษียณอายุ ย้ายไปรับผิดชอบงานอื่น ลาออกจากองค์กร เจ็บป่วยทุพพลภาพไม่สามารถปฏิบัติงานได้ หรือเสียชีวิต อันเนื่องจากเหตุการณ์ใด ๆ อันอาจทำให้บริษัทฯ ต้องใช้เวลาในการสร้างความชำนาญ และประสบการณ์ในตำแหน่งนั้น งานที่ดำเนินการอาจหยุดชะงัก ส่งผลต่อการตัดสินใจ และผลการดำเนินงานต่อไปได้ หากไม่มีการวางแผนล่วงหน้าไว้
การบริหารความเสี่ยง
บริษัทฯ ดำเนินการจัดการความเสี่ยง โดยจัดทำแผนรองรับ ตั้งแต่การปรับโครงสร้างขององค์กร เพื่อจัดวางโครงสร้างที่สนับสนุนการทํางานได้อย่างเหมาะสม พิจารณากำหนดแผนกำลังคน กระบวนการที่สำคัญ คือการจัดทำแผนการสืบทอดตำแหน่งผู้บริหารและตำแหน่งงานสำคัญ (Succession Planning for Management and Critical Position) โดยบริษัทฯ มีการสรรหา ประเมินสมรรถนะ (Competency Gap Analysis) ทั้งความรู้ ทักษะ และองค์ประกอบอื่นๆ เพื่อพัฒนาบุคลากรที่สรรหาในตำแหน่งสำคัญนั้นด้วยแผนพัฒนารายบุคคล (Individual Development Plan : IDP) ทั้งระยะสั้น และ ระยะยาว เพื่อเติมเต็มช่องว่างของสมรรถนะตามขั้นตอนการประเมิน ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจขององค์กรเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และราบรื่น
(3) ความเสี่ยงด้านภัยคุกคามทางไซเบอร์
จากการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่เข้าถึงข้อมูลสารสนเทศได้ง่าย และรวดเร็ว เป็นปัจจัยเสี่ยงอันอาจจะส่งผล กระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยต่อระบบสารสนเทศของบริษัทฯ ได้ หากบริษัทฯ ไม่มีมาตรการรองรับ หรือมาตรการในการจัดการที่ดีอาจสร้างความเสียหายให้แก่บริษัทฯ ทั้งด้านภาพลักษณ์ ชื่อเสียง และความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสีย การบริหารความเสี่ยง
บริษัทฯ คำนึงถึงความปลอดภัยในข้อมูลเป็นสำคัญ ตลอดจนข้อมูลที่เกี่ยวข้องของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายในห่วงโซ่คุณค่า บริษัทฯ ประกาศใช้นโยบายด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ผ่านประเมินความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ตามแบบประเมินของลูกค้าหลัก กำหนดให้มีแผนฉุกเฉินด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการในการจัดการ ติดตาม และประเมินความเสี่ยง เช่น การดำเนินการจัดทำการประเมิน Cyber Security Maturity Risk โดยใช้ NIST Framework การให้ความรู้ถึงความสำคัญของ Cyber Security ผ่าน Line Official “Somboon” และการจัดให้มีบุคลากรประเมิน และติดตามความเสี่ยงโดยมี Key Risk Indicator ที่สำคัญในการประเมินความเสี่ยงระดับสายงานทุกเดือน และนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการด้านความเสี่ยงระดับองค์กรเพื่อประเมิน และพิจารณา
ความเสี่ยงด้านการเงิน (Financial risk)
(1) ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
ความผันผวนของราคาวัตถุดิบโดยเฉพาะราคาเหล็กซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิต เป็นความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบถึงความไม่แน่นอนในราคาขายและผลประกอบการโดยรวม
การบริหารความเสี่ยง
บริษัทฯ กำหนดแนวทางจัดการความเสี่ยงด้านความผันผวนของราคาวัตถุดิบ โดยมีการพิจารณาเงื่อนไขในการปรับราคาผลิตภัณฑ์ในสัญญาซื้อขายตามต้นทุนที่เปลี่ยนไปอย่างเหมาะสม ตามมาตรฐานของอุตสาหกรรม มีการติดตามเจรจาต่อรองกับลูกค้าในการปรับราคาขายของผลิตภัณฑ์ตามรอบสัญญา จัดหา และพัฒนาแหล่งวัตถุดิบใหม่ เพื่อให้สามารถลดผลกระทบจากความผันผวนด้านราคาลงได้
ความเสี่ยงด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Compliance Risks)
(1) การเตรียมพร้อมในการปฏิบัติตามเกณฑ์ ข้อบังคับที่เปลี่ยนแปลง
สืบเนื่องจากเกณฑ์ หรือข้อบังคับ หรือมาตรการที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินธุรกิจมีการปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลง เช่น มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 17 เรื่องสัญญาประกันภัย หรือ TFRS17 ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 หรือการเตรียมความพร้อมหากมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืน IFRS S1 และ S2 มีผลบังคับใช้ เหล่านี้ล้วนเป็นความท้าทายที่บริษัทฯ และกลุ่มบริษัทสมบูรณ์ต้องเตรียมความพร้อม และปฏิบัติตาม ให้สามารถพิสูจน์ยืนยันได้ เปรียบเทียบได้ ครบถ้วน และสอดคล้องกัน
การบริหารความเสี่ยง
บริษัทฯ มีมาตรการในการจัดการความเสี่ยง โดยการกำหนดให้มีการศึกษาทบทวนกฎระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงมีการฝึกอบรมพนักงานในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงนั้น ทั้งยังดำเนินการพัฒนานโยบายรองรับการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์ต่าง ๆ โดยแต่งตั้งผู้รับผิดชอบ และจัดตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการตามความจำเป็น นอกจากนี้ ในส่วนข้อมูลความยั่งยืน บริษัทฯ ทำการพัฒนาด้านฐานข้อมูล โดยติดตั้ง ESG Data Platform เพื่อให้เป็นระบบจัดการข้อมูลด้าน ESG ของบริษัท ซึ่งจะช่วยให้การสืบค้น การเข้าถึง และการจัดทำข้อมูลมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (ESG)
แนวทางของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ถูกนำมาเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะแนวปฏิบัติด้าน ESG ซึ่งครอบคลุมการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Governance) ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงในเชิงกลยุทธ์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งบริษัทฯ มีปัจจัยเสี่ยง และการดำเนินการ ดังนี้
(1) ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัจจัยความเสี่ยงที่ทั่วโลกตระหนัก และเล็งเห็นถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 28 หรือ COP28 ซึ่งมีขึ้นช่วงปลายปี 2566 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยังคงมุ่งเน้นในประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสามารถบรรลุข้อตกลง เปลี่ยนผ่านจากเชื้อเพลิงฟอสซิล (Transition away from fossil fuels) รวมทั้งการหารือถึงความพร้อมในการดำเนินงานของแต่ละประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของโลก
ในส่วนของประเทศไทย ปรากฏการณ์เอลนีโญในปี 2566 ส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น ประกอบกับสถานการณ์น้ำกักเก็บในปีนี้ที่น้อยกว่าปีก่อนหน้า และภาวะฝนทิ้งช่วง ทำให้ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร และยอดผลิตในกลุ่มเครื่องจักรกลการเกษตรอาจเปลี่ยนแปลงได้
(2) ความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน
บริษัทฯ ให้ความสำคัญ และยึดมั่นต่อการปฏิบัติต่อบุคลากรอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกันโดยไม่เลือกปฏิบัติ นอกจากการเคารพสิทธิมนุษชนแล้ว ในการปฏิบัติด้านแรงงานยังดำเนินการตามมาตรฐานสากล และปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน และมาตรฐานแรงงานไทย รวมทั้งกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยที่การ ประกอบการของบริษัทฯ และกลุ่มบริษัทสมบูรณ์ต้องเกี่ยวข้องกับบุคคลที่หลากหลาย สำนักงานตั้งอยู่คนละเขตพื้นที่ ซึ่งบริษัทฯ ได้ดำเนินการบริหารจัดการทั้งการเผยแพร่ข้อมูล การสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความร่วมมือและสร้าง ความเข้าใจที่ตรงกัน
การบริหารความเสี่ยง
บริษัทฯ และกลุ่มบริษัทสมบูรณ์ตระหนักถึงความสำคัญ และเคารพต่อสิทธิมนุษยชนในทุกด้านของบุคคลทุกกลุ่ม ตลอดจนสังคมและชุมชน ตามกฎหมายของประเทศ และตามสนธิสัญญาที่แต่ละประเทศมีพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติ โดยบริษัทฯ ประเมิน และปฏิบัติสอดคล้องตามกฎหมาย การนำหลักสากลด้านสิทธิมนุษยชนมาปรับใช้เป็นแนวทางปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ มาตรฐานแรงงานไทย มรท.8001-2563 (Thai Labour Standard 8001-2020; TLS), หลักการชี้แนะ เรื่องสิทธิมนุษยชนสำหรับธุรกิจแห่งสหประชาชาติ (United Nations Guiding Principle on Business and Human Right : UNGP) และ หลักการชี้แนะการประเมินผลกระทบ และการบริหารจัดการด้านสิทธิมนุษยชน (Guide to Human Right Impact Assessment and Management: HRIAM) ทบทวน และประกาศใช้นโยบายสิทธิมนุษยชน อีกทั้งยังมีช่องทางในการรับข้อร้องเรียนผ่านหลากหลายช่องทาง เช่น ตู้รับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ และช่องทางการแจ้งเบาะแสของบริษัทฯ โดยในปัจจุบันยังไม่พบประเด็นที่มีความเสี่ยง
(3) ความเสี่ยงจากคู่ค้า
จากการพัฒนาตามแนวปรัชญาการดำเนินธุรกิจ “3 สมบูรณ์ สร้างสมดุล” เพื่อพัฒนาฅนสมบูรณ์ ธุรกิจสมบูรณ์ และชุมชนสมบูรณ์ ให้เติบโตอย่างยั่งยืนนั้น บริษัทฯ ยังรณรงค์ ส่งเสริม และพัฒนาคู่ค้าในการปฏิบัติตามแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ยังมุ่งนำพาคู่ค้าประกาศเจตนารมณ์แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC) ซึ่งนับเป็นอีกความท้าทายในการปรับใช้ และต่อยอดแนวทางการดำเนินธุรกิจให้ได้อย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการประเมินความเสี่ยงจากคู่ค้าผ่านกระบวนการประเมินความเสี่ยงระดับสายงาน (FRM) ของหน่วยงานจัดซื้อ
การบริหารความเสี่ยง
บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการยกระดับการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานให้เกิดประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมุ่งบูรณาการตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทั้งการให้ความรู้ สื่อสารจริยธรรม ในส่วนของการนำพาคู่ค้าเข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC) นั้น บริษัทฯ มีแผนส่งเสริม โดยเริ่มจากคู่ค้ากลุ่มเป้าหมายในการเข้าร่วมการประกาศเจตนารมณ์ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการประเมินความเสี่ยงเบื้องต้นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแลกิจการที่ดี และสื่อสารกับทางคู่ค้า โดยเป็นการประเมินตามการปฏิบัติตามจรรยาบรรณ แนวทางปฏิบัติสำหรับคู่ค้า ซึ่งปัจจุบันยังไม่พบประเด็นที่มีความเสี่ยง และบริษัทฯ ยังเตรียมแนวทางการอบรม และประเมินด้านความเสี่ยงทางเศรษฐกิจแก่คู่ค้าผ่านการจัดประชุมคู่ค้าประจำปีของบริษัทฯ ซึ่งจะเป็นการยกระดับคู่ค้าให้ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน
ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่ (Emerging Risk)
(1) ความเสี่ยงด้านห่วงโซ่อุปทาน
จากสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้น และยืดเยื้อ เช่น สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน อิสราเอล และกลุ่มฮามาส ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์ และการดำเนินการของบริษัทฯ เช่น การเปลี่ยนแปลงด้านราคาพลังงานเชื้อเพลิง ค่าขนส่ง และการส่งสินค้าทางเรืออาจเกินกำหนด หรือมาตรการทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมรถยนต์โดยตรง และส่งผลกระทบยังผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในไทย ในส่วนของการวิเคราะห์ผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวต่อคู่ค้ากลุ่มสำคัญคือวัตถุดิบเหล็กที่ใช้ในการผลิต พบว่าไม่มีผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่จะทำให้การขนส่งหยุดชะงัก
การบริหารความเสี่ยง
บริษัทฯ เฝ้าระวัง และติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยเสี่ยงด้านนี้ มีการดำเนินการวิเคราะห์ผลกระทบทั้ง จากภายใน และภายนอกอย่างรอบด้าน รวมถึงการบริหารจัดการมาตรการที่ใช้เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจจะมีขึ้น เช่น ระยะเวลาขนส่งที่ยาวนานขึ้น จากการที่สายเรือปรับเส้นทางเดินเรือเลี่ยงทะเลแดง บริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนนโยบาย โดยการเพิ่มปริมาณสินค้าคงคลังในต่างประเทศอย่างเหมาะสม เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเพียงพอ ตลอดจนเพิ่มเส้นทางการขนส่งทางอื่น เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตามกำหนด
2.2.2 ความเสี่ยงต่อการลงทุนต่อผู้ถือหลักทรัพย์
ความเสี่ยงต่อความไม่แน่นอนของผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับ ตามที่คาดหวัง ราคาหุ้นของบริษัทฯ ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และ การสร้างการเติบโตของบริษัทฯ ในระยะยาว ซึ่งอาจจะถูกกระทบจาก ปัจจัยต่าง ๆ เช่น
- ยอดการผลิตรถยนต์ของไทย
- ยอดผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรของไทย
- การเปลี่ยนแปลงตามนโยบาย กฎ ข้อบังคับ หรือเงื่อนไขต่าง ๆ ที่มีผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล การเกษตร
- การเปลี่ยนแปลงต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบ และราคาพลังงาน ที่ปรับตัวสูงขึ้น
- ภาวะเศรษฐกิจ ภาวะวิกฤต สถานการณ์ที่ไม่ปกติ เช่น การชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยซึ่งมีผลต่อความต้องการและยอดการผลิตรถยนต์ในประเทศ และวิกฤตทะเลแดงซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ไปต่างประเทศ
ปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน และราคาหุ้น ของบริษัทฯ
ความเสี่ยงจากความสามารถในการจ่ายปันผลไม่เป็นไปตามที่ผู้ลงทุนคาดหวัง
ความสามารถในการจ่ายปันผลขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การรักษาระดับเงินสำรองให้เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ งบลงทุนปกติและการสํารองเงินทุนเพื่อการขยายธุรกิจ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อระดับเงินสดที่จะจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิหลังหักเงินสำรองต่าง ๆ ทุกประเภท ที่กฎหมายและบริษัทฯ กำหนด
2.2.3 ความเสี่ยงต่อการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (กรณีผู้ออกหลักทรัพย์เป็นบริษัทต่างประเทศ)
-ไม่มี-