นางสาวนภัสร กิตะพาณิชย์

กรรมการผู้อำนวยการ

ในปี 2566 เศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะชะลอตัวจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆทั้งในเรื่องสงครามรัสเซีย – ยูเครน และสงครามอิสราเอล – ปาเลสไตน์ ส่งผลกระทบให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศจาก ...Covid ก็เป็นไปอย่างเชื่องช้า ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้น สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยที่สูงอีกทั้งการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมยานยนต์จากยานยนต์สันดาปภายในสู่ยานยนต์ไฟฟ้า ส่งผลให้การผลิตรถยนต์ในประเทศลดลงกว่า 3% เมื่อเทียบกับปี 2565 ปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อ บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) อย่างไรก็ดี ด้วยประสบการณ์กว่า 60 ปี บริษัทฯ ทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่ในการรักษายอดขาย โดยการหาคำสั่งซื้อใหม่ และบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิต และเน้นการใช้พลังงานทดแทน ทำให้บริษัทฯ สามารถรักษายอดขาย และกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปี 2566 มีรายได้รวม 9,201 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 978 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% และ 4% ตามลำดับจากปีก่อน

แม้ในสภาวะเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมชะลอตัว บริษัทฯ ยังคงดำเนินการด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงความสมดุลในทุกมิติ รวมถึงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการดำเนินธุรกิจด้วยการกำกับกิจการที่ดี (ESG) และการปฏิบัติตามกรอบเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) ภายใต้ปรัชญาการดำเนินธุรกิจ “3 สมบูรณ์ สร้างสมดุล” บนพื้นฐานปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ส่งผลให้ปี 2566 บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนตามแนวทางของ ESG ทั้ง 3 ด้าน คือ 1) สิ่งแวดล้อม (Environmental) ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตได้ 30.5% จากเป้าหมายการลด 11% เทียบ baseline ปี 2561 2) สังคม (Social) สร้างมูลค่าทางสังคมได้ 1.0% ของกำไรสุทธิ จากเป้าหมาย 0.5% ของกำไรสุทธิ และ 3) การกำกับกิจการที่ดี (Governance) บริษัทฯ ปฏิบัติสอดคล้องตามกฎหมาย 100% จากการดำเนินงานดังกล่าวนำสู่ความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม บริษัทฯ ได้รับรางวัลเกียรติยศแห่งความสำเร็จด้านความยั่งยืน ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 6 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทฯ ยังต้องเผชิญกับความท้าทายของประเทศและของโลก โดยเฉพาะด้าน ESG ซึ่งถือเป็นทั้งความเสี่ยงและโอกาสที่เราต้องเตรียมตัวรับมืออย่างจริงจัง

จากการประชุม COP28 ได้เน้นย้ำเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ ได้แก่ การควบคุมให้อุณหภูมิโลกไม่เพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส พร้อมกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 43% ภายในปี 2573 และ 60% ภายในปี 2578 เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายนี้ บริษัทฯ จำเป็นต้องเร่งการศึกษา และวางแผนโครงการเพื่อลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับด้านสังคม และการกำกับดูแลกิจการอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสังคมผ่านกระบวนการผลิต หรือจากศักยภาพของพนักงาน และการยกระดับการบริหารจัดการ Supply Chain เพื่อส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืน รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

ในนามของคณะกรรมการบริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ถือหุ้น คู่ค้า ลูกค้า และพันธมิตรผู้มีส่วนได้เสียทางธุรกิจทุกท่าน ตลอดจนผู้บริหาร พนักงานและลูกจ้างของบริษัททุกคน ที่ได้ร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ เป็นอย่างดีตลอดมา และขอให้มั่นใจว่าภายใต้ปัจจัยความเสี่ยงต่าง ๆ ที่มีอยู่ บริษัทฯ จะดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์องค์กรด้วยความระมัดระวัง โดยยึดหลักการบริหารจัดการตามหลักกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร